เมืองเก่าที่ทรงคุณค่า Byblos, Lebanon

ที่ตั้งของ Byblos

Byblos (หรือที่ชาวอาหรับเรียกว่า Jbeil) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของประเทศเลบานอน ห่างจากกรุงเบรุตไปทางเหนือราว 40 กิโลเมตร เมืองเล็กๆ แห่งนี้โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ของทะเลและเนินเขาอันเขียวชอุ่ม เป็นหนึ่งในเมืองที่มีการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องมายาวนานที่สุดในโลก

Byblos Port, Photo by Nabih El Boustani on Unsplash

ประวัติความเป็นมาและตำนานที่เกี่ยวข้อง

Byblos มีหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์ตั้งแต่ประมาณ 8800 ปีก่อนคริสตกาล เริ่มจากยุคหินใหม่ (Neolithic) จนถึงยุคสำริด โดยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมของฟินีเซียในเวลาต่อมา ชื่อ “Byblos” เป็นที่มาของคำว่า “Bible” เนื่องจากเป็นเมืองที่ส่งออกกระดาษปาปิรัสไปยังกรีซ

ในตำนานกรีก เมืองนี้เกี่ยวข้องกับเทพีอัฟโฟรไดท์ และเรื่องราวของเทพอซิริสและไอซิสของอียิปต์ก็ถูกเชื่อมโยงกับ Byblos ด้วย โดยเชื่อว่าพระศพของเทพอซิริสเคยลอยมาติดฝั่งที่นี่


เรื่องราวของยุคสมัยตามลำดับ

  1. ยุคก่อนประวัติศาสตร์ – ชาวประมงและเกษตรกรยุคหินใหม่เริ่มตั้งถิ่นฐาน
  2. ยุคสำริด (3000–1200 ปีก่อนคริสตกาล) – Byblos กลายเป็นศูนย์กลางการค้าใหญ่ เชื่อมโยงกับอียิปต์อย่างแน่นแฟ้น
  3. ยุคฟินีเซียน – เมืองมีความรุ่งเรืองทางการค้า สร้างตัวอักษรฟินีเซียนต้นแบบของอักษรละตินในปัจจุบัน
  4. ยุคกรีก-โรมัน – เมืองกลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิกรีกและโรมัน พัฒนาโรงละครและวิหาร
  5. ยุคไบแซนไทน์และอิสลาม – เมืองยังคงความสำคัญด้านศาสนา
  6. ยุคครูเสด (ศตวรรษที่ 12) – ปราสาทและกำแพงเมืองสร้างขึ้นใหม่โดยอัศวินครูเสด
  7. ยุคออตโตมันถึงปัจจุบัน – กลายเป็นเมืองเล็กริมทะเล แต่ยังคงเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ไว้ครบถ้วน

สถาปัตยกรรม ศิลปะ และวัฒนธรรม

สถาปัตยกรรมของ Byblos เป็นภาพสะท้อนของการทับซ้อนของอารยธรรมหลายยุค ตั้งแต่โบราณจนถึงยุคกลาง เช่น:

  • วิหารบาอาลัต เกเบล (Temple of Baalat Gebal) แห่งยุคฟินีเซียน
  • โรงละครโรมัน บอกเล่าความรุ่งเรืองทางศิลปะและวรรณกรรม
  • ปราสาทครูเสด สร้างโดยอัศวินแห่งอาณาจักรแฟรงกิช
  • ตลาดเก่า (Souq) ที่ยังคงมีร้านค้าศิลปะพื้นบ้าน เครื่องหนัง และของที่ระลึกแบบดั้งเดิม

วิถีชีวิตของผู้คนในยุคที่รุ่งเรือง

ในยุคฟินีเซียน Byblos เป็นเมืองท่าแห่งการค้ากับอียิปต์ ครีต และเมืองอื่นๆ ของเมดิเตอร์เรเนียน ชาวเมืองเชี่ยวชาญการต่อเรือ การทำไวน์ การเขียนตัวอักษร และการผลิตผ้า

พ่อค้า นักปราชญ์ และนักเดินเรือถือกำเนิดขึ้นมากมาย วิถีชีวิตของผู้คนผสมผสานทั้งความศรัทธาทางศาสนาและวิทยาการ โดยมีเทพเจ้าฟินีเซียนเป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณ


Byblos ในปัจจุบัน

Byblos เป็นเมืองสงบที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ในปี 1984 ผู้มาเยือนสามารถเดินชมเมืองเก่า ซากโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ และท่าเรือแบบดั้งเดิมที่ยังคงใช้งานอยู่

เมืองยังมีเทศกาลดนตรี ศิลปะ และอาหารท้องถิ่นที่จัดขึ้นเป็นประจำ สะท้อนความมีชีวิตชีวาของชุมชนและวัฒนธรรมที่ยังคงสืบทอด

Photo by ali hamada on Unsplash

มรดกตกทอดที่สำคัญและอัตลักษณ์ของเมือง

  • ตัวอักษรฟินีเซียน – ต้นแบบของอักษรละติน
  • วิหารและปราสาทโบราณ – เป็นสัญลักษณ์ของเมือง
  • ท่าเรือโบราณ – ศูนย์กลางการค้าทางทะเลในอดีต
  • Souq เมืองเก่า – ยังคงมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม
  • หินแกะสลักและโบราณวัตถุ – แสดงถึงชั้นวัฒนธรรมที่ทับซ้อนกันอย่างเป็นเอกลักษณ์

การเดินทางเข้าถึง ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

การเดินทางไป Byblos จากกรุงเบรุตใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยรถยนต์หรือรถโดยสารประจำทาง เส้นทางริมทะเลที่สวยงามและปลอดภัย

เมืองมีโรงแรม บูติกโฮเทล และร้านอาหารที่ผสมผสานความทันสมัยกับวัฒนธรรมท้องถิ่น การรักษาความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับในระดับมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว


สถานที่แนะนำในการเยี่ยมเยียน

  1. ปราสาท Byblos (Byblos Castle) – ศูนย์กลางของอาณาเขตครูเสด
  2. วิหารบาอาลัตเกเบล – ศาสนสถานโบราณอายุ 4,000 ปี
  3. ท่าเรือ Byblos – จุดชมพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติก
  4. ตลาดเก่า (Souq) – เดินเล่น ช้อปของพื้นเมือง
  5. พิพิธภัณฑ์โบราณคดี Byblos – รวบรวมวัตถุโบราณสำคัญของเมือง
  6. โบสถ์ Saint John the Baptist – ศิลปะโรมันไบแซนไทน์ที่ทรงเสน่ห์
  7. ชายหาดและร้านอาหารริมทะเล – ให้ประสบการณ์ผ่อนคลายพร้อมรสชาติอาหารเลบานอนต้นตำรับ
Photo by Christelle Hayek on Unsplash

สรุป

Byblos ไม่ใช่แค่เมืองเก่า หากแต่คือแหล่งกำเนิดของภาษา วรรณกรรม และวัฒนธรรมโลก เป็นเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอารยธรรมอย่างเป็นชั้นๆ พร้อมเปิดต้อนรับผู้มาเยือนให้ได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ที่ยืนยาวเกินกว่ากาลเวลา

หากคุณต้องการเดินทางย้อนเวลาเพื่อสัมผัสแก่นแท้ของประวัติศาสตร์ Byblos คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด.